Blog Archive
Android
- 10เหตุผลที่คนรักแอนดรอยด์ (Android) (1)
- 17 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Hard Disk (1)
- การใช้งาน GPS (1)
- ข้อเสียของ แอนดรอยด์ (1)
- ทิศทางของแอนดรอยด์ในตลาด (1)
- แนะแนวการเลือกซื้อ Android (1)
- ระบบปฎิบัติการ Android คืออะไร (1)
- วิธีการ uninstall แอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ (1)
- อันตรายจากการใช้ Copy+Paste (1)
- Link ข่าวไอที (1)
ข่าว IT
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
เกี่ยวกับฉัน
Followers
Popular Posts
-
ข้อเสียของ แอนดรอยด์ การ Sync ข้อมูลสามารถทำได้เฉพาะ Contact กับ Calendar เท่านั้น หากไม่ใช่เครื่องยี่ห้อ HTC อา...
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555
แนะแนวการเลือกซื้อ Android
แนะแนวการเลือกซื้อ
Android
“จะซื้อ Android รุ่นไหนดีคะ ?” “ระหว่าง 2 รุ่นนี้จะซื้อรุ่นไหนดีครับ ?”
“Android รุ่นไหนที่น่าซื้อบ้างครับ ?”
“ Android รุ่นนี้ดีมั้ยครับ ?”
และอีกมากมาย
คำถามเหล่านี้จัดอยู่ในคำถามยอดฮิตอันดับต้นๆที่สามารถตอบได้ทุกวันเลยทีเดียว
ด้วยความที่ android มีให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อมาก
และแต่ละเครื่องก็ดันมีเสปกรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันมันก็เหมือนๆกับการที่เราเลือกใช้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่แต่ละเครื่องจะมีเสปกที่ไม่เท่ากันนั่นแหละ
แต่กับมือถืออันดรอยด์แล้วนั้น
กลับมีปัจจัยในการเลือกที่มากและยากกว่าการเลือกซื้้อคอมพิวเตอร์หรือ Notebook
สักเครื่องนึงเสียอีกเพราะอะไร? ก็เพราะว่าการเลือกซื้ออันดรอยด์นั้นไม่ได้เจาะจงดูแต่ความเร็วซีพียู
แรม ความจุฮาร์ดดิสก์หรือยี่ห้อ เพียงแค่นั้น
แต่ต้องดูรายละเอียดต่างๆที่มากกว่านั้นไปอีกหนึ่งขั้น เช่น ประเภทของหน้่าจอ
ความละเอียดของหน้าจอ การซัพพอร์ตของซอฟแวร์ ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ภายใน
(เช่นพวกเซนเซอร์ต่างๆ) และอีกมากมาย ความเสถียรภาพของเฟิร์มแวร์ซึ่งแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นนั้นก็กลับไม่เหมือนกันอย่างที่มาตรฐานของวงการ
PC เลย หรือที่เรียกกันว่าปัญหา Fragmentation นี่แหละ
จึงทำให้มีปัจจัยอีกเยอะแยะมากมายในการเลือกที่ต้องอาศัยการศึกษาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นี่คือความยุ่งยากของผู้ใช้อันดรอยด์ในการเลือกซื้อ เพราะการเลือกซื้อนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแบบการเลือกแค่ระหว่างมือถือและแท็ปเล็ตอย่าง
Ipad ,Iphone (หลายๆคนตัดปัญหาโดยการซื้อ Iphone4 ไปเลย เลือกง่ายดี ฮ่าๆ)
วันนี้ก็เลยจะมาพูดถึงวิธีการเลือกซื้อมือถือ Android
ให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดกัน
สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะทราบว่าจะซื้อ Android รุ่นไหนดี นั่นก็คือ "ความต้องการของเรา"
แน่นอนเมื่อเรารู้ว่าเราต้องการจะซื้อมือถือเครื่องนี้มาทำอะไร
หรือมีเหตุผลในการเลือกซื้ออย่างไร รูปทรงความสวยงาม? ต้องการใช้งานแบบใด ? หรือแม้แต่ราคา ต้องการให้มันตอบสนองอะไรบ้าง
เมื่อรู้ว่าเราต้องการอะไรแล้ว ก็ค่อยมาดูข้อมูลในการตัดสินใจกันอีกที
ในกระทู้นี้ได้จะรวบรวมข้อมูลในการตัดสินใจไว้อย่างพอสังเขป
1. ขนาด
คุณต้องรู้ก่อนว่า
คุณต้องการสิ่งของที่ขนาดเท่าใด เล็กหรือใหญ่
ต้องการความสะดวกในการใช้งานหรือต้องการความสะดวกในการพกพามากกว่า เช่น ระหว่าง Galaxy
Tab กับ Galaxy S นั้น ราคาเท่ากัน
ซีพียูความเร็วเท่ากัน ความสามารถในการใช้งานก็ใกล้เคียงกัน
แต่ด้วยขนาดที่แตกต่างกันจะทำให้การใช้งานที่ได้นั้นแตกต่างกัน
Galaxy Tab อาจจะเหมาะสำหรับการท่องอินเตอร์เน็ตมากกว่าการโทร
สำหรับคนที่ต้องการใช้ความสามารถของสมาร์ทโฟนแต่นำมาใช้ในแง่ของแท็ปเล็ต ส่วน Galaxy
S แม้จะสามารถเล่นเว็บเบราเซอร์ได้เหมือนกับ Galaxy Tab แต่การใช้งานในการท่องอินเตอร์เน็ตเป็นหลักก็คงไม่สะดวกเท่ากับ Galaxy
Tab แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก
ก็คงต้องเลือกทีขนาดที่เล็กกว่าอย่าง Galaxy S เป็นต้น
2. การใช้งาน
ถ้าหากว่าขนาดไม่ใช่เรื่องที่คุณแคร์
การพกการจะไม่ใช่เรื่องในการตัดสินใจของคุณ
คุณก็อาจจะต้องดูที่การใช้งานเป็นหลักก็ได้ ตามสิ่งต่างๆดังนี้
2.1 ท่องอินเตอร์เน็ต
ถ้าคุณต้องการท่องอินเตอร์เน็ตเป็นหลักโดยไม่มีปัจจัยอื่นๆเช่นด้านความสะดวกในการพกพาแล้ว
คุณควรจะเลือกมือถือที่มีหน้าจอใหญ่ เช่น 4 นิ้วขึ้นไป
หรือสำหรับคนที่ไม่เน้นโทรอาจจะเปลี่ยนไปใช้แท็บเล็ตอย่าง 7
นิ้ว หรือ 10
ไปเลยและถ้่าเป็นมือถือก็ควรเลือกความละเอียดที่หน้าจอค่อนข้างสูงหน่อย โดยควรมีความละเอียดระดับ
WVGA หรือ 800x480 pixel เป็นอย่างต่ำ
เพราะยิ่งความละเอียดมากๆ ก็จะยิ่งทำให้อ่านสบายตา
และแน่นอนขนาดที่ใหญ่ก็จะยิ่งทำให้คุณท่องอินเตอร์เน็ตได้สะดวกขึ้นมาก
2.2
ใช้ทางด้านติดต่อสื่อสาร
ถ้าคุณจะใช้งานด้านการติดต่อสื่อสารเป็นหลัก เช่น โทร เข้า ออก เช็คเมลล์
ติดต่องานแต่ยังต้องการความสะดวกในการพกพาแล้ว ควรเลือกมือถือขนาดกลางๆ เช่น 3.2-4 นิ้ว
เพราะขนาดกำลังพอเหมาะกับที่จะสามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกและยังคงความสามารถที่สมาร์ทโฟนมีอยู่ไว้เหมือนเดิม
หรือถ้าเน้นพิมพ์ข้อความ ส่งเมลล์บ่อยๆหรือแม้กระทั่ง Social Network ก็ควรเลือกชนิดที่มีฮาร์ดแวร์คีย์บอร์ดด้วยก็ทำไห้การพิมพ์ทำได้อย่างสะดวกมากขึ้น
คงมีคนอยู่ไม่น้อยที่ต้องการ Android มาตอบสนองด้านความบันเทิงเป็นหลัก
เช่นการเล่นเกมส์ ดูคลิปวีดีโอระดับ 720p หรือ 1080p
Full HD เป็นต้น ซึ่งการตอบสนองด้านมัลติมีเดียและบันเทิงนี่ละครับ
ที่ต้องการเสปกของ Android ในระดับที่ค่อนข้างสูง
และราคาที่ค่อนข้างแพงไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- การเล่นเกมส์
ถ้าคุณต้องการเล่นเกมส์เป็นอาชีพ มือถือที่ใช้ซีพียู Nvidia
Tegra2 คือมือถือที่คุณใฝ่หาในปัจจุบัน เพราะจะมีเกมส์ระดับ HD
ที่ภาพสวยโฮกอยู่ที่เป็นแบบ exclusive เฉพาะสำหรับซีพียูตัวนี้อยู่มากมาย
ที่เรียกกันว่า Tegra Zone นั่นเอง ซึ่งเจ้า Tegra 2
นี้มันมีความสามารถให้การประมวลผลด้าน 3D ที่สูงเกือบจะที่สุดในจำนวนมือถือที่วางขายอยู่เลย
(**บางวิธีการเรนเดอร์เท่านั้นและอยู่ที่การ optimize ของแต่ละเครื่องด้วย)
ตารางแสดงความสามารถด้านการเล่นเกมส์ของแอพ smartbench
2011
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า tegra
2 มีประสิทธิภาพสูง
แต่เจ้า Tegra 2 ก็ยังมีข้อเสียอยู่อย่างก็คือจะไม่สามารถเล่นไฟล์ที่ใช้ codec H264 ชนิดที่รายละเอียดสูงๆ(High profile)ได้ดี เพราะ cpu ไม่รองรับการถอดรหัสบางประเภท บางครั้งจึงต้องใช้ Softwere Codec ผ่านแอพแทนก็จะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จุดนี้ขอไม่ลงลึกในรายละเอียด เดี๋ยวจะ geek เกิน สรุปให้ฟังว่า tegra 2 นั้นเล่นวีดีโอไฟล์ขนาดใหญ่ๆที่ความละเอียดสูงๆได้ไม่เก่งนั่นเอง(แต่ไม่ได้แปลว่าจะเล่นได้ไม่ดีทุก codec พวก DivX, XviD ยังคงเล่นได้ดีอยู่)
คลิป Asus Eeepad Tranformer เล่นไฟล์ 1080p
เหตุผลนี้จึงทำให้ Tegra
2 อาจจะยังตอบสนองด้านมัลติมีเดียทุกรูปแบบได้ไม่ดีเยี่ยมเท่าที่ควร
แต่ถ้าทางด้านเล่นเกมส์อย่างเดียวละก็ ของเค้าที่หนึ่งจริงๆ
คลิปเกมส์ใน Tegra zone
แต่เอาจริงๆแล้ว Tablet หรือ Smart Phone แต่ละเครื่องก็ไม่ได้จะสามารถเล่นไฟล์หลากสกุล หลาก codec ได้ดีทั้งหมดอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างเช่น Ipad ก็ยังต้องอาศัยการแปลงไฟล์หรือใช้แอพที่มี Software Codeช่วยในการเล่นไฟล์อยู่ดี
ส่วนรุ่นที่ใช้ CPU Tegra 2 ก็มีมากมายในตลาด
เช่น Motorola Atrix , Asus Tranformer , Optimus 2X และบรรดา
Honeycomb Tablet ทั้งหลาย
และล่าสุดที่กำลังจะวางจำหน่ายในงาน TME ก็คือ Wellcom
A100 มือถือแบรนด์ไทยนั่นเอง
- ดูคลิปวีดีโอ
นี้คือข้อได้เปรียบของทางฝั่ง Android เพราะมีความสามารถในการ drag
& drop สามารถโยนไฟล์จากคอมพิวเตอร์ลงสู่เครื่องได้ทันที
และสามารถซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่อง
ทำให้หลายๆคนนิยมในการเลือกตอบสนองด้านการดูหนัง ดูคลิปวีดีโอมากกว่า แถมในหลายๆเครื่องก็ยังมี
Hardware Codec หรือซีพียูที่รองรับการถอดรหัสวีดีโอของแต่ละประเภทโดยเฉพาะ
ทำให้สามารถจะโยนไฟล์หลากสกุลเข้าเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการแปลงไฟล์
ซึ่งหลายๆคนคงจะเคยนำคลิปวีดีโอที่มีความยาวเป็นชั่วโมงมาแปลงเพื่อที่จะให้โทรศัพท์หรือแกดเจ็ตของเราเล่นได้มาแล้ว
และคงรู้กันดีว่าขั้นตอนการแปลงไฟล์นั้นไม่รื่นรมณ์เท่าไหร่ นอกจากจะยุ่งยากแล้ว
ยังใช้เวลาที่นานพอๆกับเวลาที่เราใช้ดูคลิปนั้นกันเลยทีเดียว(แล้วแต่ความเร็วในการแปลงไฟล์ของซีพียูคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง)
ในเวลาที่เราจำเป็นต้องเดินทางและมีเวลาในการเตรียมตัวกำจัด
การที่ซีพียูของมือถือหรือแก็ดเจ็ตเหล่านั้นรองรับการถอดรหัสไฟล์ที่หลากหลายก็จะทำให้ยิ่งได้เปรียบในการถ่ายโอนข้อมูลและเคลื่อนย้ายไฟล์ยิ่งขึ้น
ทำให้ประหยัดเวลาในการเตรียมและสะดวกในการลงไฟล์วีดีโอเพื่อรับชมมากกว่า
รุ่นที่มีฮาร์ดแวร์ codec
ติดมาเลยก็เช่นพวก Galaxy S , Galaxy Tab , Galaxy Player เป็นต้น รุ่นพวกนี้จะสามารถเล่นไฟล์วีดีโอที่ใช้ Codec แบบ MP4 , DivX, XviD, H.264, H263 แบบ HD (ประเด็นนี้อาจจะมีบทความเจาะลึกในภายหลัง) ได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลงไฟล์
และไม่ต้องลงแอพประเภทที่มี Software codec ด้วย
เพราะมันสามารถเล่นได้โดยกำเนิดอยู่แล้ว
ทำให้มีความสามารถในการเล่นคลิปวีดีโอที่หลากหลายและการตอบสนองด้านการเล่นคลิปวีดีโอทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว
3. ราคา
ปัจจัยสุดท้ายก็คือราคา ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
เพราะถ้าเราไม่มีปัจจัยทางด้านราคาแล้ว
เราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องตัดสินใจใดๆในการเลือกซื้อเลยก็ได้
เห็นรุ่นไหนถูกใจตรงตามความต้องการก็สามารถซื้อได้ทันที ซึ่งบางครั้ง
สิ่งที่สมบูรณ์แบบตรงใจเราที่สุด
และมีความสามารถที่ครบครันอาจจะต้องใช้งบประมาณที่แพงขึ้นไปด้วย
และเมื่อเรามีงบประมาณที่ไม่พอก็อาจจะต้องเลือกสิ่งที่คิดว่าเราต้องการมากที่สุดในการใช้งานเท่าที่งบประมาณเราจะมีอยู่
หลายๆคนก็ใช้สิ่งนี้เป็นการตัดสินใจเป็นหลัก
"ดูงบประมาณก่อน
แล้วค่อยดูความต้องการ"
หลักการในการเลือกซื้้อในกรณีที่อยากได้ของที่ตรงใจที่สุดในราคาที่น้อยที่สุดเพราะใครๆก็อยากได้ของที่เลิศเลอเพอร์เฟกต์ทั้งนั้น
(แม้จะหาได้ยากในโลกใบนี้ก็ตาม) ซึ่งของดีในราคาถูก(มากๆ) (ส่วนใหญ่) มักไม่ค่อยมี
และของที่ราคาถูกกว่าก็คงจะดีได้ยากกว่าของที่แพงกว่า
ตรงจุดนี้ละครับที่เราจะต้องมาหาคำตอบ ซึ่งคำตอบไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย
มันอยู่ในความต้องการของเราตังหากละ หลายๆครั้งเราถึงต้องการที่จะตัดสินใจระหว่าง
ของที่คุ้มค่าคุ้มราคา หรือของที่เราต้องการแต่แพงเกินราคา
ดังนั้นเราจึงต้องใช้หลักการ ดูงบประมาณก่อนแล้วค่อยมาดูความต้องการนั่นเอง
ถ้าเราตั้งงบไว้ต่ำเกินกว่าความต้องการที่เราอยากได้
นั่นก็อาจจะหารุ่นที่ตรงกับใจได้ยากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย เช่น
- ตั้งงบ
5000 บาท แต่อยากเล่นเกมส์เฟสบุ๊คได้
- ตั้งงบ
3000 บาท แต่อยากเล่นเกมส์ HD ได้
- งบ
8000 บาท แต่อยากได้วัสดุดีๆ
- งบ
9000 บาท อยากได้การ์ดจอแรงๆ แต่ไม่อยากได้เฮาส์แบรนด์
เป็นต้น
ดังนั้นก็ควรจะทราบถึงข้อกำจัดในด้านปริมาณและด้านคุณภาพด้วย และถ้าไม่ต้องการลดความต้องการก็ควรจะเพิ่มงบประมาณด้วย
ถึงจะสามารถเป็นไปได้
สำหรับกรณีที่งบประมาณจำกัดและไม่ต้องการเพิ่มงบประมาณแล้วก็ต้องลองตัดสินใจดูระหว่างความต้องการในด้านต่างๆ
เพราะในเมื่อเรามีงบจำกัด
เราก็จำเป็นที่จะต้องลดความต้องการบางอย่างที่น้อยที่สุดออกไปด้วย เช่น
- ตั้งงบ 10,000 บาท ต้องการ เล่นเกมส์ HD ,
flash playerได้ ,เล่น video call ได้ , เป็นอินเตอร์แบรนด์
ถ้าความต้องการที่น้อยที่สุดคือ เล่น video call ได้
ก็อาจจะเลือก Motorola Defy ที่พอจะเล่นเกมส์ HD ได้ เป็นอินเตอร์แบรนด์ สามารถเล่น flash player ได้
และลดความต้องการในส่วนของการเล่น Video call ได้ออกไป
กรณีที่ความต้องการน้อยที่สุดคืออินเตอร์แบรนด์ ความต้องการก็จะเหลือแค่ เล่นเกมส์ HD , flash player ได้ , เล่น video call ได้
ซึ่งถ้า requirement เป็นเช่นนี้ในงบไม่เกิน 10000 ก็คงจะต้องเลือก Wellcom a99 เท่านั้น
เพราะราคาที่ต่ำกว่าหมื่นพวก Galaxy Cooper จะไม่สามารถรองรับ
flash player และ video call ได้
เป็นต้น
ถ้าในกรณีที่คุณไม่ซีเรียสเรื่องกล้องหน้าเพื่อการ video
call แต่ยังคงอยากได้เครื่องแรงๆในราคาถูกๆแล้วละก็ Xperia
Mini , Mini Pro จะเป็นตัวเลือกใหม่ที่ดีของคุณ (อย่าสับสนกับ x10
mini , mini pro นะครับ เพราะมันจะคนละตัว คนละเสปกกันเลย Xperia
Mini นี่แรงกว่าเยอะ) เพราะตัวนี้เป็นมือถือที่ราคาไม่ถึงหมื่นแต่ได้การ์ดจอ adreno 205 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Xperia Arc เลยทีเดียว เพียงแต่จะได้หน้าจอที่เล็กกับความละเอียดที่น้อยหน่อยนั่นเอง (3 นิ้ว)
แต่ถ้ายังไม่สามารถเลือกได้กับตัวเลือกที่จำกัดในงบประมาณเท่านี้ได้
อาจจะต้องเพิ่มงบประมาณในการซื้อขึ้นไปอีกสัก1-2
พันบาทแล้วตัวเลือกก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย อาทิเช่น LG optimus black ,
Nexus S เป็นต้น
สุดท้ายถ้างบประมาณของคุณไม่จำกัด คุณก็ควรจะมองมือถืออันดรอยด์ระดับ Hi-end ไปเลยอย่างพวก Galaxy S2 , HTC Sensation , Optimus 3D ฯลฯ ซึ่งมือถือพวกนี้จะใช้อุปกรณ์ภายในที่ค่อนข้างคุณภาพดี ส่วนประกอบต่างๆที่ต้นทุนสูง มีความเร็วในการใช้งานสูง ใช้ซีพียูแบบ Dual Core และการ์ดจอแรงๆที่จะตอบสนองการใช้งานในทุกด้านได้ดีขึ้น
สุดท้ายถ้างบประมาณของคุณไม่จำกัด คุณก็ควรจะมองมือถืออันดรอยด์ระดับ Hi-end ไปเลยอย่างพวก Galaxy S2 , HTC Sensation , Optimus 3D ฯลฯ ซึ่งมือถือพวกนี้จะใช้อุปกรณ์ภายในที่ค่อนข้างคุณภาพดี ส่วนประกอบต่างๆที่ต้นทุนสูง มีความเร็วในการใช้งานสูง ใช้ซีพียูแบบ Dual Core และการ์ดจอแรงๆที่จะตอบสนองการใช้งานในทุกด้านได้ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้คือกรณีตัวอย่างของวิธีคิดในการเลือกตัดสินใจระหว่างความต้องการของตัวเองกับปัจจัยหลายๆอย่าง
เพื่อให้ได้ผลในการที่จะเลือกซื้อ Android สักเครื่องให้ได้อย่างตรงใจของผู้ซื้อมากที่สุดจริงๆ
เขียนโดย : นางสาวพนิดา สุขแจ่ม 53116940165
เขียนโดย : นางสาวพนิดา สุขแจ่ม 53116940165
ป้ายกำกับ:
แนะแนวการเลือกซื้อ Android
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น